Pedagogical grammar of Mandarin Chinese negation "Bu" and "Mei (You)" for Thai unversity students

Thesis (M.A.)--Chulalongkorn University, 2006

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: Phornphan Thongbanchachai (Author)
Other Authors: Sasarux Petcherdchoo (Contributor), Chulalongkorn University. Faculty of Arts (Contributor)
Format: Book
Published: Chulalongkorn University, 2010-10-18T09:19:35Z.
Subjects:
Online Access:http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/13676
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Description
Summary:Thesis (M.A.)--Chulalongkorn University, 2006
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาเปรียบเทียบคำปฏิเสธ "BU" และ "MEI(YOU)" ในภาษาจีนกลางกับคำในภาษาไทยในลักษณะเดียวกัน เพื่อให้นักศึกษาไทยเข้าใจและสามารถใช้คำปฏิเสธ "BU" และ "MEI(YOU)" ได้อย่างถูกต้อง และเพื่อให้อาจารย์ผู้สอนภาษาจีนกลางเข้าใจสถานการณ์และสาเหตุของข้อผิดพลาดของนักศึกษาไทยในการใช้คำปฏิเสธ "BU" และ "MEI(YOU)" นอกจากนี้ยังเสนอแนวทางการสอนคำปฏิเสธ "BU" และ "MEI(YOU)" ให้แก่นักศึกษาไทยอีกด้วย ผลการวิจัย พบว่า ในด้านโครงสร้างทางไวยากรณ์ ภาษาจีนกลางและภาษาไทยมีโครงสร้างไวยากรณ์ที่คล้ายกัน เช่น ภาษาจีนกลางและภาษาไทยจะวางคำปฏิเสธไว้หน้าคำกริยา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่แตกต่างกันด้วย เช่น ภาษาจีนกลางสามารถวางคำปฏิเสธไว้หน้าคำบุพบท แต่ภาษาไทยจะไม่วางคำปฏิเสธไว้หน้าคำบุพบท เป็นต้น ส่วนในด้านความหมาย คำปฏิเสธในภาษาจีนกลางและภาษาไทยแสดงความหมายเหมือนกัน คือ เพื่อแสดงอัตวิสัยและภววิสัย เพื่อแสดงถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อแสดงสภาพและการเปลี่ยนแปลงสภาพ และเพื่อแสดงถึงความเคยชินและความเป็นครั้งคราว สาเหตุของข้อผิดพลาดของนักศึกษาไทยในการใช้คำปฏิเสธ "BU" และ "MEI(YOU)" ได้แก่ (1) กระบวนการเรียนรู้คำปฏิเสธ "BU" และ "MEI(YOU)" ของนักศึกษาไทยไม่ถูกต้อง (2) การศึกษาเปรียบเทียบคำปฏิเสธ "BU" และ "MEI(YOU)" ในภาษาจีนกลางและภาษาไทยไม่ถูกต้อง (3) เกณฑ์การใช้คำปฏิเสธ "BU" และ "MEI(YOU)" ไม่ชัดเจน สำหรับแนวทางการสอนคำปฏิเสธ "BU" และ "MEI(YOU)" นั้น ได้แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ หน้าที่ โครงสร้าง และวิธีใช้ โดยอาศัยสถิติที่เกิดข้อผิดพลาดมาจัดลำดับการสอน โครงสร้างที่ควรสอนก่อนควรเป็นโครงสร้างที่ใช้บ่อย และมีข้อผิดพลาดในการใช้น้อย จากนั้นควรเป็นโครงสร้างที่ใช้น้อยและมีข้อผิดพลาดในการใช้สูง
Item Description:http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/13676