Prevalence and determinants of hypertension among Bhutanese monks in Tashi-Choe-Dzong, Thimphu, Bhutan

• Main Author: Tshering, Namgay (Author)
• Other Authors: Ratana Somrongthong (Contributor), Chulalongkorn University. College of Public Health Sciences (Contributor)
• Format: Book
• Published: Chulalongkorn University, 2013-06-17T07:12:18Z.
• Subjects: Thesis
• Online Access: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/32195

Summary

Thesis (M.P.H.)--Chulalongkorn University, 2010
Hypertension or high blood pressure is one of the leading causes of mortality and morbidity in the World, as reported by the WHO in 2004 that 7.5 million deaths are solely attributable to the hypertension. Bhutan, a country of 0.7 million people, reported the current rate (prevalence) of hypertension at 310 per 10,000 population (AHB-2010). As a step towards assessing the prevalence of hypertension and risk factors associated with hypertension, 138 monks at the Tashi-Choe-Dzong, age 20 years and above were recruited to participate in this study. The clinical parameters, i.e. blood pressure measurement and BMI measurement were undertaken on the surveyed monks on this cross sectional study. Analysis of the data revealed that the prevalence rate was 10.2%. Age, number of years of monkhood, monthly income and earlier history of hypertension were found significantly associated with the development of high blood pressure with p-value at α <0.05. Since majority of the studied subjects are in the age group between 20-30 years, the observed prevalence rate was quite low. Moreover the knowledge level of the studied subjects was found very low with 44.9% possessing poor knowledge and 55.1% possessing just fair knowledge on Hypertension
ภาวะความดันโลหิตสูงถือว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตที่สำคัญในปัจจุบัน จากรายงานขององค์การอนามัยโลกปี 2547 พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากจากภาวะความดันโลหิตสูงนี้ถึง 7.5 ล้านคนทั่วโลก ในประเทศภูฏานซึ่งจำนวนประชากรประมาณ 700,000 คน จากการรายงานของกระทรวงสาธารณสุขภูฎานปี 2553 พบว่ามีอัตราความชุกของการเกิดโรค 310 คน ต่อแสนประชากร วัตถุประสงค์ของการการศึกษาครั้งนี้เพื่อทำการศึกษาความชุกของภาวะความดันโลหิตสูง และปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อภาวะความดันโลหิตสูง โดยทำการศึกษาในกลุ่มพระภิกษุที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปจำนวน 138 รูป ณ วัดทาชิชวยส่อง ด้วยการวัดความดันโลหิตและค่าดัชนีมวลกายโดยทำการศึกษาแบบภาคตัดขวาง จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าความชุกของภาวะความดันโลหิตสูงเป็น 10.2 เปอร์เซ็นต์ และยังพบว่าอายุ ระยะเวลาที่บวช รายได้รายเดือน และดัชนีมวลกาย มีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง (p-value at α < 0.05) จากการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุอยู่ระหว่าง 20-30 ปี อัตราความชุกของภาวะความดันโลหิตสูงพบอยู่ในระดับต่ำ ระดับความรู้ของภาวะความดันโลหิตอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นการให้สุขศึกษาจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรมีการส่งเสริม

Item Description

http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/32195